admin2

/admin2

About admin2

This author has not yet filled in any details.
So far admin2 has created 4 blog entries.

การทำเฟล็กต้องทำบล็อกหรือไม่

By |2024-08-26T16:07:43+07:00August 26th, 2024|เฟล็ก|

การทำ เฟล็ก (Flex Printing) ไม่จำเป็นต้องใช้บล็อคหรือแม่พิมพ์แบบที่ใช้ในการสกรีน แต่ใช้เทคโนโลยีและกระบวนการที่แตกต่างออกไป: ขั้นตอนการทำเฟล็ก: ออกแบบลวดลาย: ใช้ซอฟต์แวร์กราฟิกเพื่อสร้างหรือออกแบบลวดลายที่ต้องการพิมพ์ ตัดฟิล์ม: ใช้เครื่องตัดฟิล์ม (Cutter) เพื่อตัดลวดลายจากฟิล์มพลาสติก (Flex Vinyl) ตามการออกแบบที่ได้ ปอกฟิล์ม: ปอกฟิล์มส่วนที่ไม่ต้องการออกไปเพื่อให้เหลือแค่ลวดลายที่ต้องการติดบนผ้า ติดฟิล์มลงบนผ้า: ใช้เครื่องพิมพ์ร้อน (Heat Press) เพื่อทำการติดฟิล์มที่ปอกออกแล้วไปยังผ้า โดยใช้ความร้อนและแรงดัน ฟิล์มจะยึดติดกับผ้าอย่างมั่นคง ข้อดีของเฟล็ก: ไม่ต้องใช้บล็อค: ทำให้กระบวนการผลิตเร็วและต้นทุนต่ำสำหรับการพิมพ์จำนวนเล็กน้อยหรือการสั่งทำเฉพาะ ความคมชัด: สามารถให้ลวดลายที่คมชัดและละเอียด การดูแลรักษา: ฟิล์มเฟล็กติดทนนานและไม่หลุดลอกง่าย ข้อเสีย: ลวดลายซับซ้อน: อาจไม่เหมาะสำหรับลวดลายที่มีหลายสีหรือมีรายละเอียดซับซ้อนมาก ความรู้สึกของพื้นผิว: ลวดลายที่ทำด้วยเฟล็กอาจรู้สึกหนากว่าผิวสัมผัสของผ้า สรุป: การทำเฟล็กไม่ต้องการการเตรียมบล็อคเหมือนกับการสกรีน ซึ่งทำให้กระบวนการสะดวกและรวดเร็วขึ้นในบางกรณี โดยเฉพาะสำหรับการพิมพ์ลวดลายที่มีความละเอียดสูงหรือลวดลายที่ต้องการการผลิตตามสั่ง

DTG (Direct to Garment), ปัก, สกรีน และเฟล็ก แตกต่างกันอย่างไร?

By |2024-08-26T15:07:02+07:00August 26th, 2024|การสกรีน|

DTG (Direct to Garment), ปัก, สกรีน และเฟล็ก เป็นวิธีการที่ใช้ในการตกแต่งเสื้อผ้า โดยแต่ละวิธีมีลักษณะและข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนี้: 1.DTG (Direct to Garment) ลักษณะ : ใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ที่พิเศษซึ่งพิมพ์ภาพโดยตรงลงบนผ้า การใช้งาน : เหมาะสำหรับการพิมพ์ภาพที่มีรายละเอียดสูง เช่น ภาพถ่ายหรือกราฟิกที่ซับซ้อน ข้อดี : - สามารถพิมพ์สีได้หลายสีและมีความละเอียดสูง - ไม่จำเป็นต้องใช้การเตรียมแม่พิมพ์หรือกรอบ - เหมาะสำหรับการพิมพ์จำนวนเล็กน้อยหรือการพิมพ์ตามสั่ง (Print on Demand) ข้อเสีย : - อาจไม่ทนทานเท่าการสกรีน - ราคาอาจสูงขึ้นสำหรับการพิมพ์จำนวนมาก 2.ปัก (Embroidery) ลักษณะ : ใช้เครื่องปักในการเย็บลวดลายหรือข้อความลงบนผ้า การใช้งาน : เหมาะสำหรับลวดลายที่ต้องการความเป็นทางการหรือการตกแต่งที่มีความทนทาน ข้อดี : - ทนทานและมีความคงทนสูง - ให้ลวดลายที่ดูหรูหราและมีมิติ - ไม่หลุดลอกหรือซีดจางง่าย [...]

ควรดูแลรักษาเสื้อที่สกรีนอย่างไรให้ลวดลายที่สกรีนอยู่ได้นาน?

By |2024-08-26T13:17:36+07:00August 26th, 2024|การสกรีน|

การดูแลรักษาเสื้อที่สกรีนให้ลวดลายอยู่ได้นานเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เสื้อและลวดลายคงทนและสวยงามได้นานๆ คุณสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้: 1. ซักเสื้อด้วยน้ำเย็นหรืออุ่น ใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุ่นในการซัก เพื่อป้องกันไม่ให้ลวดลายสกรีนหดหรือซีดจาง เนื่องจากน้ำร้อนอาจทำให้หมึกสกรีนละลายหรือเสื่อมสภาพได้ง่าย 2. กลับด้านเสื้อก่อนซัก กลับเสื้อให้ลายสกรีนอยู่ด้านในก่อนซัก เพื่อลดการเสียดสีโดยตรงกับผิวของลายสกรีน ซึ่งจะช่วยลดการเสื่อมสภาพของลายได้ 3. ใช้ผงซักฟอกที่อ่อนโยน ใช้ผงซักฟอกหรือสบู่ที่อ่อนโยน ไม่มีสารฟอกขาว เพื่อป้องกันไม่ให้สีของลวดลายซีดจาง 4. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องอบผ้า ความร้อนจากเครื่องอบผ้าอาจทำให้ลายสกรีนหดตัวหรือเสียหายได้ ควรตากเสื้อในที่ร่มและอากาศถ่ายเทดี ไม่ควรตากในที่ที่มีแสงแดดจัดเพราะอาจทำให้สีซีดจาง 5. หลีกเลี่ยงการรีดโดยตรงบนลายสกรีน หากจำเป็นต้องรีดเสื้อ ควรกลับด้านเสื้อให้ลายสกรีนอยู่ด้านใน หรือวางผ้าบางๆ ทับบนลายสกรีนก่อนรีด เพื่อป้องกันความร้อนจากเตารีดทำให้ลายเสียหาย 6. หลีกเลี่ยงการบิดหรือขยี้เสื้อแรงๆ บิดหรือขยี้เสื้อเบาๆ เมื่อซักด้วยมือ เพื่อลดการเสียดสีของลายสกรีน 7. หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีเข้มข้น หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีเข้มข้นหรือสารฟอกขาวในการทำความสะอาด เพราะอาจทำให้ลายสกรีนซีดจางหรือเสื่อมสภาพ การดูแลรักษาเสื้อสกรีนด้วยวิธีเหล่านี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานของลวดลายสกรีน และคงความสวยงามของเสื้อไว้ได้นานยิ่งขึ้น

การสกรีนเสื้อมีกี่แบบ แต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร?

By |2024-08-26T13:13:28+07:00August 26th, 2024|การสกรีน|

การสกรีนเสื้อมีหลายแบบ โดยทั่วไปสามารถแบ่งได้เป็นหลัก ๆ ดังนี้: 1.การสกรีนด้วยการพิมพ์ซิลค์สกรีน (Silk Screen Printing): วิธีที่เป็นที่นิยมและใช้มากที่สุด ใช้แม่พิมพ์ที่มีตะแกรงหรือซิลค์ (Silk) ทำการพิมพ์ลายลงบนผ้า สามารถพิมพ์หลายสีได้โดยการทำแม่พิมพ์แต่ละสีแยกกัน 2.การสกรีนแบบดิจิทัล (Digital Printing หรือ Direct to Garment - DTG): เป็นการพิมพ์ลายลงบนเสื้อโดยตรงด้วยเครื่องพิมพ์ดิจิทัล เหมาะสำหรับการพิมพ์ที่มีลายละเอียดสูงหรือจำนวนชิ้นน้อย 3.การสกรีนด้วยการรีดโอน (Heat Transfer Printing): ใช้ฟิล์มพิเศษที่พิมพ์ลายแล้วนำมารีดบนเสื้อด้วยความร้อน เหมาะสำหรับลายที่มีสีสันมากและต้องการความรวดเร็ว 4.การสกรีนแบบฟอยล์ (Foil Printing): เป็นการใช้ฟอยล์ในการพิมพ์ ทำให้ลายมีความเงางาม เหมาะสำหรับการสร้างลวดลายที่ต้องการความหรูหรา 5.การสกรีนแบบพัฟ (Puff Printing): การพิมพ์ที่ใช้หมึกพิเศษทำให้ลายที่พิมพ์ออกมามีความนูนออกมา เหมาะสำหรับการสร้างลวดลายที่มีมิติ 6.การสกรีนแบบปล่อยสี (Discharge Printing): การใช้สารเคมีทำให้สีของเนื้อผ้าถูกขจัดออกไป แล้วเติมสีใหม่เข้าไปแทนที่ เหมาะสำหรับการสกรีนบนผ้าสีเข้ม แต่ละวิธีการสกรีนเสื้อมีความแตกต่างกันในแง่ของกระบวนการ ผลลัพธ์ คุณภาพ และการนำไปใช้ มาดูกันว่าแต่ละแบบต่างกันอย่างไร: 1. การสกรีนด้วยการพิมพ์ซิลค์สกรีน (Silk [...]